Call4Service
แบบฟอร์มติดต่อ
1483 สายด่วนบริการ เบอร์โทรฟรี
ค้นหาที่ตั้งสาขา
วิธีเลือกงารถโฟล์คลิฟท์ให้ถูกต้อง

ความปลอดภัยต้องมาก่อน! วิธีเลือกงารถโฟล์คลิฟท์ให้ถูกต้อง

การเลือกงารถโฟล์คลิฟท์ให้มีขนาดที่เหมาะสม และการใช้งานที่ระดับความสูงที่ถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดอุบัติเหตุในคลังสินค้า บทความนี้ Jungheinrich จะพาไปเรียนรู้แนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งาโฟล์คลิฟท์ 

งารถยก คืออะไร

งารถโฟล์คลิฟท์ หรืองาโฟล์คลิฟท์ คือแท่งโลหะคู่ขนานแบน 2 ชิ้นที่ยื่นออกมาด้านหน้ารถยก ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือหลักในการยกและเคลื่อนย้ายสินค้า โดยการสอดเข้าไปใต้พาเลทหรือกล่องสินค้า ซึ่งการทำงานของงาจะเชื่อมโยงกับระบบเสายก (Mast) ของรถโฟล์คลิฟท์ โดยทั่วไป ขนาดงารถโฟล์คลิฟท์ มาตรฐานจะอยู่ที่ 42-48 นิ้ว แต่ก็มีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการของอุตสาหกรรม

หน้าที่ของงารถโฟล์คลิฟท์

หน้าที่หลักของงารถโฟล์คลิฟท์ คือการยกและขนส่งสินค้าอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายพาเลทสินค้า การที่งาโฟล์คลิฟท์มีความยาวและแข็งแรงเพียงพอจะช่วยกระจายน้ำหนักของโหลดได้ดี ทำให้การยกเป็นไปอย่างปลอดภัย

Jungheinrich เชื่อว่างารถโฟล์คลิฟท์ ไม่ได้เป็นเพียงส่วนประกอบธรรมดา แต่เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างรถยกกับสินค้าโดยตรง ดังนั้น การเลือกขนาดงารถโฟล์คลิฟท์ ที่เหมาะสมกับน้ำหนักและขนาดของพาเลทจึงเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถละเลยได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทำงานจะราบรื่นและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

งารถยก ควรยกสูงจากพื้นเท่าไร

เพื่อให้การทำงานของงารถโฟล์คลิฟท์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ควรปรับระดับความสูงตามสถานการณ์ดังนี้

งารถยก ควรยกสูงจากพื้นเท่าไร

งารถยก ขณะจอด

เมื่อรถโฟล์คลิฟท์จอดหยุดนิ่งหรือไม่ใช้งาน แนะนำให้ปรับระดับความสูงของงาโฟล์คลิฟท์ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุดหรือแตะพื้น และปรับเสายกให้อยู่ในตำแหน่งมั่นคงที่สุด การทำเช่นนี้จะป้องกันไม่ให้งารถโฟล์คลิฟท์กีดขวางทางเดินหรือเกี่ยวกับบุคคลและสิ่งของในพื้นที่ ทำให้ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุขณะจอดได้อย่างมาก

งารถยก ขณะเคลื่อนที่

ในระหว่างการเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเปล่าหรือมีโหลด ผู้ปฏิบัติงานควรปรับระดับงารถโฟล์คลิฟท์ ให้สูงจากพื้นดินประมาณ 4-6 นิ้ว (ประมาณ 10-15 เซนติเมตร) ระดับความสูงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ

  • ลดความเสียหาย : ช่วยลดโอกาสที่งาโฟล์คลิฟท์จะครูด เสียดสี หรือสัมผัสกับพื้นผิวถนนหรือทางลาดที่ไม่เรียบ ซึ่งอาจทำให้งาเสียหายได้
  • เพิ่มทัศนวิสัย : การยกงาโฟล์คลิฟท์ขึ้นเล็กน้อยยังช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในการมองเห็นสิ่งกีดขวางหรือผู้คนรอบด้าน

งารถยก ขณะยกของขึ้นที่สูง

เมื่อต้องยกสินค้าขึ้นชั้นวางสูงหรือลงจากที่สูง ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด โดยผู้ขับขี่ต้องแน่ใจว่าได้ปรับงาโฟล์คลิฟท์ให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงและเสายกอยู่ในแนวตั้งตรงก่อนการยก การเลือกขนาดงารถโฟล์คลิฟท์ ที่เหมาะสมกับโหลด จะช่วยให้สินค้าไม่ลื่นไถลหรือตกลงมา

ระดับความสูงในการยกของรถโฟล์คลิฟท์ มีปัจจัยอะไรบ้าง

ระดับความสูงในการยกที่เหมาะสมและปลอดภัย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสูงสูงสุดที่รถโฟล์คลิฟท์ทำได้เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย ดังนี้

การยกงาของรถโฟล์คลิฟท์ สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป อันตรายอย่างไร

การยกงารถยก สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป อันตรายอย่างไร

  • ยกสูงเกินไปขณะเคลื่อนที่ : ทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า อาจชนคนหรือสิ่งกีดขวางได้ง่าย และยังทำให้ศูนย์ถ่วงของรถสูงขึ้นจนเสี่ยงต่อการพลิกคว่ำ โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้ง
  • ยกต่ำเกินไปขณะเคลื่อนที่ : ทำให้ปลายงาโฟล์คลิฟท์ สัมผัสหรือครูดกับพื้นผิว อาจทำให้งาเสียหาย สะดุดกับสิ่งกีดขวางบนพื้น หรือเกิดการกระชากตัวอย่างกะทันหันซึ่งเสี่ยงต่อการทำสินค้าเสียหายหรือทำให้รถเสียการควบคุม

สรุปบทความ งารถโฟล์คลิฟท์

การเลือกงารถโฟล์คลิฟท์ และการปรับระดับความสูงอย่างเหมาะสม ทั้งในส่วนของขนาดงารถโฟล์คลิฟท์ และระดับการยกที่ถูกต้องตามหลักความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการปฏิบัติงานคลังสินค้า การตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยกและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย

หากคุณกำลังมองหารถยกคุณภาพสูงที่มาพร้อมกับงาโฟล์คลิฟท์ที่ทนทานและได้มาตรฐาน Jungheinrich มีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเช่าโฟล์คลิฟท์ประสิทธิภาพสูง รถโฟล์คลิฟท์มือสองคุณภาพดี ไปจนถึงอะไหล่โฟล์คลิฟท์ และบริการหลังการขายครบวงจร เราพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้คุณเลือกรถโฟล์คลิฟท์ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจคุณที่สุดการยกงาของรถโฟล์คลิฟท์ สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป อันตรายอย่างไร

Stage เงินปันผล

ข้อมูล ติดต่อ

เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

โทรศัพท์

1483

ทำการติดต่อ

 

คำถามที่พบบ่อย

ยังมีข้อสงสัยใช่หรือไม่