Call4Service
แบบฟอร์มติดต่อ
1483 สายด่วนบริการ เบอร์โทรฟรี
ค้นหาที่ตั้งสาขา
คลังสินค้าห้องเย็นคืออะไร

คลังสินค้าห้องเย็นคืออะไร? รวมสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Cold Storage Warehouse

การจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพเป็นหัวใจสำคัญของหลายธุรกิจ

โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น อาหารสด ยา และเครื่องสำอาง การจัดเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้คงคุณภาพและความสดใหม่จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย คลังสินค้าห้องเย็น (Cold Storage Warehouse) หรือคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ จึงกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการรักษาคุณค่าของสินค้าก่อนถึงมือผู้บริโภค บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคลังสินค้าห้องเย็น ตั้งแต่ความหมาย ประเภท ไปจนถึงอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้ และเคล็ดลับการบำรุงรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกและบริหารคลังสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจของคุณ

คลังสินค้าห้องเย็น (Cold Storage Warehouse) คืออะไร?

คลังสินค้าห้องเย็น คือพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในให้คงที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อปกป้องสินค้าจากความร้อนภายนอก อุณหภูมิภายในคลังจะแตกต่างกันไปตามประเภทสินค้า ตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ไปจนถึงอุณหภูมิติดลบ ซึ่งเหมาะสมสำหรับสินค้าหลากหลายประเภท เช่น อาหารสด เครื่องดื่ม ยา และเครื่องสำอาง การมี คลังสินค้าห้องเย็น ที่ได้มาตรฐานจึงช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คลังสินค้าห้องเย็นทำงานอย่างไร

คลังสินค้าห้องเย็นทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของคลังสินค้าห้องเย็น คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพของสินค้า อุณหภูมิที่ต่ำจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ลดอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และชะลอการคายแก๊สของผักและผลไม้ ทำให้สินค้าเน่าเสียช้าลง การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำจึงช่วยรักษาความสดใหม่และคุณภาพของสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถสต็อกสินค้าในปริมาณที่คุ้มทุนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหาย

คลังสินค้าห้องเย็นมีกี่ประเภท?

คลังสินค้าห้องเย็น สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามการใช้งานและระดับอุณหภูมิ เพื่อให้การจัดเก็บสินค้าแต่ละชนิดเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

 1. ห้องเย็นพักสินค้า (Anti-Room)

ห้องประเภทนี้ใช้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างภายนอกและห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า เพื่อลดความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศที่ไหลเข้าออก อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ -5°C ถึง 10°C และบางครั้งใช้เป็นจุดพักสินค้าหรือกระจายสินค้าก่อนส่งต่อ

2. ห้องแช่แข็ง (Freezer Room)

ใช้สำหรับจัดเก็บสินค้าในระยะยาวที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของผลิตภัณฑ์ อุณหภูมิใช้งานโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ -5°C ถึง -25°C เหมาะสำหรับสินค้าที่ผ่านการแช่แข็งมาแล้ว เช่น เนื้อสัตว์หรืออาหารทะเล

3. ห้องแช่เย็นเฉียบพลัน (Air Blast Chill Room)

มีไว้เพื่อลดอุณหภูมิสินค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ก่อนนำไปจัดเก็บหรือแปรรูปต่อไป อุณหภูมิใช้งานที่ต้องการอยู่ที่ประมาณ 2°C ถึง 10°C

4. ห้องเย็นเก็บรักษาสินค้า (Cold Storage Room)

เป็นห้องสำหรับเก็บรักษาสินค้าที่ถูกแช่แข็งมาแล้ว โดยสินค้าที่นำเข้ามีอุณหภูมิเท่ากับหรือต่ำกว่าอุณหภูมิห้อง อุณหภูมิใช้งานโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ -25°C

5. ห้องเย็นแช่แข็งลมเย็นจัด (Air Blast Freezer Room)

ใช้เพื่อแช่แข็งสินค้าให้เย็นเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างเซลล์เสียหายจากเกล็ดน้ำแข็งที่อาจก่อตัวขึ้นภายใน อุณหภูมิใช้งานที่ต้องการโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ -35°C

ประโยชน์ของคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ

  • ยืดอายุสินค้า: ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพและทำให้สินค้าคงความสดใหม่ได้นานขึ้น
  • ลดการสูญเสีย: ป้องกันสินค้าที่เน่าเสียง่าย เช่น อาหารสดและยา จากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
  • เพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์: อำนวยความสะดวกในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าที่อ่อนไหวต่ออุณหภูมิในระยะทางที่ไกลขึ้น
  • ลดต้นทุน: ทำให้สามารถสต็อกสินค้าในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องนำเข้าบ่อยครั้ง ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวม

ประโยชน์ของคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ

อุตสาหกรรมใดบ้างที่ใช้คลังสินค้าห้องเย็น

คลังสินค้าห้องเย็น เป็นหัวใจสำคัญของหลายอุตสาหกรรมที่ต้องจัดการสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด

คุณสมบัติของโฟล์คลิฟท์ที่เหมาะกับคลังเย็น

  1. ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (Electric Forklift) นิยมใช้งานมากกว่าเครื่องยนต์ระบบอื่น ๆ เพราะไม่ปล่อยไอเสียที่อาจปนเปื้อนในพื้นที่เก็บสินค้าอาหารหรือยา 
  2. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery) เหมาะกับการใช้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด สามารถใช้งานได้ในอุณหภูมิต่ำสุดที่ -28 องศา 
  3. ซีลและชิ้นส่วนป้องกันความชื้น จำเป็นต้องเลือกใช้ ซีลพิเศษ ป้องกันน้ำ ความชื้น และการกัดกร่อน ของชิ้นส่วนไฟฟ้าและไฮดรอลิค
  4. ระบบทำความร้อนและห้องโดยสารปิด (Heated Cabin / Hot Seat) สำหรับโฟล์คลิฟท์นั่งขับในห้องเย็น สามารถเลือกตัวเลือก Hot Seat เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
  5. ยางโฟล์คลิฟท์สำหรับห้องเย็น (Cold Storage Tires) เลือกใช้ยางสูตรพิเศษ เช่น ยางตัน หรือ ยางโพลิยูรีเทน ที่ไม่แข็งตัวในอุณหภูมิต่ำ และเลือกใช้ non-marking tire เพื่อป้องกันการทิ้งรอยบนพื้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและยา
  6. การบำรุงรักษาเฉพาะสำหรับคลังเย็น จำเป็นต้องมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่บ่อยกว่าการใช้งานปกติ และยังต้องมีการปรับอุณหภูมิของเคลื่อน หากใช้งานทั้งภายในห้องเย็นและภายนอกคลังสินค้า

เทคโนโลยีสำคัญในคลังสินค้าห้องเย็น

รู้จักเทคโนโลยีสำคัญที่ต้องมีในคลังสินค้าห้องเย็น

การใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ หรือ Automated Storage and Retrieval System (ASRS) ร่วมกับระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ช่วยให้การจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดการใช้แรงงานและพลังงานได้อย่างมาก และ Automated Guided Vehicle (รถยกระบบอัตโนมัติ หรือ รถ AGV) ที่สามารถเคลื่อนที่และขนย้ายพาเลทได้ด้วยตัวเอง โดยใช้เซนเซอร์ กล้อง หรือระบบนำทางอัจฉริยะ ไม่ต้องพึ่งพาคนขับ เหมาะอย่างยิ่งกับคลังเย็นที่มีสภาพแวดล้อมขีดจำกัด ซึ่งข้อดีหลัก ๆ ของรถ AGV คือ ลดการทำงานของแรงงานคนในพื้นที่อุณหภูมิต่ำ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง และให้ประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง ถือเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ธุรกิจอาหารแช่แข็ง ยา เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานสูง

หากคุณกำลังมองหารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่ทันสมัยและทนทานสำหรับงานในคลังสินค้าห้องเย็น หรือต้องการโซลูชันด้านคลังสินค้าแบบครบวงจร Jungheinrich มีรถโฟล์คลิฟท์หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน รวมถึงบริการเช่าโฟล์คลิฟท์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

Stage เงินปันผล

ข้อมูล ติดต่อ

เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

โทรศัพท์

1483

ทำการติดต่อ

ยังมีข้อสงสัยใช่หรือไม่